- หนี...วันสิ้นโลก
ใกล้ปี ค.ศ.2012 ไปทุกขณะ แม้บรรดาเกจิ อาจารย์ นักวิทยาศาสตร์ และผู้รู้ทั่วโลกจำนวนมาก จะพาเหรดกันออกมาการันตีว่า โลกนี้จะยังอยู่ดีมีสุขไม่แตกสลายง่ายๆไปกับความเชื่อเรื่องหายนะในปี 2012 แต่คนที่ยังไม่ค่อยเชื่อมั่นก็มีอยู่ ทำให้เกิดนักคิด นักธุรกิจหัวใสจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่ออกมาเสนอไอเดียในการเอาชีวิตรอดจากวันล้างโลกให้ได้ คอลัมน์ไทยรัฐซันเดย์สเปเชียลโดยทีมงานนิตยสารต่วย ’ตูนพิเศษ ก็เลยจะหยิบโครงการที่น่าสนใจมานำเสนอแฟนานุแฟน เผื่อใครอยากจะไปจองที่กับเขาบ้าง
แนวคิดในการหนีจากวันสิ้นโลก มีผู้พยายามมองทางออกไว้หลักๆ 2 แบบคือ ลอยไปกับน้ำหรือจ่อมอยู่กับดิน ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร เพราะทฤษฎีเกี่ยวกับวันโลกาวินาศก็มีอยู่ไม่มาก เช่น น้ำท่วมโลกครั้งใหญ่เหมือนสมัยที่โนอาห์เคยพาเหล่าสรรพสัตว์ลี้ภัย ดังนั้น หากอยากจะอยู่ให้รอด ก็ต้องลอยไปกับน้ำ จนกว่าน้ำจะลดแล้วค่อยออกไปหาแผ่นดินใหม่อยู่กัน
หรืออีกแนวคิดหนึ่งที่ว่าโลกอาจจะถึงกาลวิบัติเพราะอุกกาบาตพุ่งชนหรือเหตุอื่นใดที่ทำให้เราไม่สามารถมีชีวิตอยู่บนพื้นดินได้ตามปกติ เลยต้องไปมุดอยู่ใต้ดิน รอจนกว่าหมอกควันหรือพิษอันตรายจะหมดไป
ด้วยแนวคิดแบบนี้ ก็เลยมีคนนำเสนอโครงการใน 2 แบบหลักๆอย่างที่ว่า โครงการแรกที่จะมาเสนอกันวันนี้คือ “ยูโทเปีย”
โครงการยูโทเปีย (Project Utopia) นี้ เป็นโครงการที่บริษัท บีเอ็มที ไนเจิล จี (BMT Nigel Gee) บริษัทที่ปรึกษาด้านการออกแบบที่ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลกจากแดนผู้ดีประกาศว่าจะเดินหน้าสร้างโครงการกันอย่างจริงจังในเร็วๆนี้โดยได้เปิดตัวโครงการไปแล้ว ในงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับเรือระดับหรูที่โมนาโก (Monaco Yacht Show) เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
งานนี้ บีเอ็มที ไนเจิล จี จับมือกับกลุ่มยอชต์ ไอซ์แลนด์ ดีไซน์ (Yacht lsland Design) พัฒนาโครงการยูโทเปีย ซึ่งเป็นเรือขนาดใหญ่ที่คล้าย “เกาะขนาดใหญ่” มากกว่า แต่จะปักหลักอยู่กับที่ก็ได้ หรือขับเคลื่อนไปตามกระแสน้ำก็ ได้อีกเหมือนกัน
“เกาะลอยน้ำ” ยูโทเปียนี้ จะมีขนาดใหญ่ถึง 100 เมตร เป็นเรือยักษ์ 11 ชั้น ภายในจะมีทั้งส่วนที่เป็นที่พักส่วนบุคคล ร้านค้า ร้านอาหาร ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ แถมสิ่งอำนวยความสะดวกให้เพลิดเพลินใจ เช่น สระว่ายน้ำ และจุดชมวิวที่มองได้รอบทิศทาง 360 องศา ภายใต้โดมกระจกที่ครอบเกาะนี้ไว้
ตอนนี้โครงการยูโทเปียยังเป็นเพียงแนวคิด และยังไม่ได้บอกสนนราคาค่าจองห้อง แต่บีเอ็มที ไนเจิล จี ก็ประกาศลั่นว่า จะลงมือสร้างโครงการให้เห็นเป็นรูปธรรมในเร็วๆนี้แน่นอนและแม้ปี ค.ศ.2012 จะไม่เกิดอะไรขึ้น แต่ก็เชื่อว่า ภัยธรรมชาติอาจจะรุนแรง จนเกิดนํ้าท่วมเป็นบริเวณกว้าง ผืนแผ่นดินค่อยๆหดหายไปในไม่ช้าไม่นานนี้ และยูโทเปียก็จะกลายเป็น “บ้านถาวร” ของมนุษย์ไปในที่สุด
แต่หากไม่อยากอยู่เกาะ ก็ลงดินกันค่ะ โครงการนี้รับรองได้ เลยว่า หนุ่มๆคงต้องตาลุก นั่นคือ โครงการหลุมหลบภัย ที่อยู่อาศัยหลังวันล้างโลก หรือชื่อ โครงการอย่าง เป็นทางการคือ Post Apoca lyptic
ที่ว่าหนุ่มๆ ต้องตาลุกก็เพราะว่า โครงการนี้ผู้ที่ประกาศเดินหน้าสร้างบังเกอร์ใต้ดินนี้ คือ พิงค์ วิชวล (Pink Visual)...ฮั่นแน่...ใคร “แอบ” รู้จักบริษัทนี้รีบยกมือด่วนค่ะ
พิงค์ วิชวล เป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์จากลอสแอนเจลิสค่ะ และที่บอกว่าบางท่านคง “แอบ” รู้จักก็เพราะว่า พิงค์ วิชวล ไม่ได้สร้างหนังธรรมดาๆ แต่เป็นหนังโป๊!
ผู้บริหารของพิงค์ วิชวล ประกาศว่าจะสร้างที่พักใต้ดินขนาดใหญ่ รองรับคนได้ประมาณ 1,200-1,500 คน ซึ่งได้เริ่มโครงการไปแล้ว และคาดว่าจะสร้างเสร็จภายในเดือนกันยายน 2012 แต่ตอนนี้ยังปิดเป็นความลับ ไม่ยอมเปิดเผยว่าสร้างไว้ที่ไหน โดยให้เหตุผลว่า เพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
เมืองใหญ่ใต้ดินแห่งนี้ จะเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ปัจจัย 4 อาหาร นํ้า ยา มีให้พร้อมสรรพ สามารถอยู่ได้เป็นปีๆ โดยไม่ต้องกังวลว่าข้างบนแผ่นดินจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอุกกาบาตพุ่งชนโลก ฝนพิษ สึนามิ กัมมันตภาพรังสี ก็ไม่ระคายแน่นอน
เท่านั้นยังไม่พอ เมืองใต้ดินแห่งนี้จะเต็มไปด้วยความสำราญนานาชนิด สุรา นารีมีพร้อม ประหนึ่งว่าจะยกเอาสถานบันเทิงครบวงจรมาไว้ด้วย ที่สำคัญ เมืองใต้ดินนี้จะมีสตูดิโอเอาไว้สร้างภาพยนตร์ต่อไป ซึ่งก็เป็นภาพยนตร์ “แนวผู้ใหญ่” เหมือนเดิมนั่นแหละ
ถึงตอนนี้ น่าจะมีท่านผู้อ่านหลายท่านอยากเป็นพลเมืองของ “เมืองสำราญ” แห่งนี้กันแล้ว ก็ต้องบอกว่า เขายังไม่เปิดให้จองค่ะ แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่ได้สิทธิ์อยู่ก่อนแล้วแน่ๆ คือเหล่าพนักงานของ
พิงค์ วิชวล เอง ซึ่งก็รวมถึงดารา “หนังผู้ใหญ่” ด้วยนั่นแหละค่ะ มากันเพียบ สวยๆ หล่อๆ ทั้งน้าน...
ส่วนคนนอกที่ไม่ใช่พนักงานของพิงค์ วิชวลนั้น จะถูกเลือกให้มาร่วมสำราญได้ราวพันกว่าคน ซึ่งส่วนหนึ่งจะเป็น “ผู้บริจาค” หรือพูดง่ายๆ คือ คนที่ยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินมาอยู่นั่นแหละ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งจะคัดเลือกประชากรโลกให้มาอยู่รอดกันแบบสุ่มเลือก
แหม สุ่มเลือกนี่พูดยากจังนะคะ เขาจะสุ่มกันแบบไหนล่ะ ที่แน่ๆ มีการประกาศออกมาแล้วว่า บรรดาลูกค้าผู้มีอุปการคุณ และผู้ที่ติดตามทวิตเตอร์ของพิงค์ วิชวล จะเป็นกลุ่มแรกๆ ที่จะได้สิทธิ์ในการพิจารณา
สาวๆ อ่านแล้วอาจ จะแอบค้อนควั่ก แต่อย่าเพิ่งหันหน้าหนี เพราะผู้บริหารพิงค์ วิชวล บอกว่า บุรุษก็มีให้บริการ เอ๊ย ให้ได้ยลโฉมกันด้วย ก็แหม ดาราของเขามีทั้งหญิงทั้งชายนี่คะ
มีข่าวแว่วๆ ออกมาว่า งานสร้างอลังการนี้ได้เริ่มไปเยอะแล้ว และหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พอสร้างเสร็จก็จะเปิดให้ผู้ที่ถูกเลือกได้ลงไปอยู่ในเมืองนี้กันก่อนเดือนธันวาคมปีหน้า หากเกิดวิกฤติกับโลกขึ้นมาจริงๆก็อยู่กันต่อในนั้น แต่ถ้าผ่านวันที่ 21 ธันวาคม 2012 ไปแล้ว โลกยังอยู่รอดปลอดภัย ก็ค่อยกลับขึ้นมา ที่สำคัญก่อนจะกลับขึ้นมากันนั้น ต้องได้สนุกสุดเหวี่ยงแบบลืมโลกกันแน่นอน
โครงการนี้พิงค์ วิชวล น่าจะไตร่ตรองไว้หลายชั้น คือถ้าหากไม่เกิดอะไรขึ้น เมืองใต้ดินนี้ก็อาจจะกลายสภาพเป็นสถานบันเทิงครบวงจรขนาดใหญ่ ที่ใครเบื่อโลกเมื่อไหร่ก็ลงไปใช้บริการได้เรื่อยๆ จะหนีวันสิ้นโลก หนีหนี้ หนีภรรยา ฯลฯ ก็ตามสะดวก
ส่วนที่ว่าหนีภรรยาไปแล้วเกิดโลกไม่แตก ถ้าขึ้นมาอีกทีก็อาจหัวแตกแทน อันนี้ ตัวใครตัวมันนะคะ
แนะนำมาแล้ว 2 โครงการแบบยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างทั้งนั้น แล้วคนที่เบี้ยน้อยหอยน้อยล่ะ จะทำยังไง ไม่เป็นไรค่ะ ยังมีโครงการหนีแบบพอเพียง นั่นคือ โครงการของบริษัท คอสโม เพาเวอร์ ของญี่ปุ่น ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์สึนามิครั้งใหญ่ที่เพิ่งเกิดขึ้น คอสโม เพาเวอร์เกิดปิ๊งไอเดียว่า มาเตรียมอุปกรณ์ไว้หนีความโหดร้ายของธรรมชาติกันเถอะ
จึงเกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่า “แคปซูลลอยน้ำ” ดูจากรูปแล้ว เหมือนลูกเทนนิสขนาดใหญ่ และแม้ชื่อของเจ้าลูกเทนนิสยักษ์นี้จะเรียกกันเล่นๆว่า แคปซูล แต่ชื่อจริงๆของโครงการคือ “เรือโนอาห์” ค่ะ
เรือนี้สร้างขึ้นจากไฟเบอร์ที่มีความแข็งแรงทนทาน ทดสอบมาแล้วว่าเจอภัยธรรมชาติหนักๆ ก็เอาอยู่ ทนน้ำ ทนไฟ ทนการกระแทกกระเทือน ที่สำคัญ เสนอขายในราคาไม่แพง คือประมาณ 3 แสนเยน (ราวๆเกือบ 1.2 แสนบาท นับว่าราคาถูกมากสำหรับญี่ปุ่น)
อันว่าเรือโนอาห์ขนาดกระเป๋านี้ มองเผินๆ เหมือนจะมีขนาดเล็ก แต่เขาออกแบบกันมาอย่างดี ให้หลบหนีภัยกันได้ทั้งครอบครัว เข้าไปอยู่กันได้สบายๆ 4 คน พ่อ แม่ ลูกๆ มีหน้าต่างให้มองออกมาชมโลกภายนอกได้ รวมทั้งมีช่องระบายอากาศให้หายใจสะดวก
ผู้บริหารของคอสโม เพาเวอร์ บอกว่า ทุกคนสามารถซื้อเรือโนอาห์เอาไว้ประจำบ้าน เกิดเหตุเมื่อไหร่ก็รีบมุดเข้าไปข้างใน เหตุการณ์สงบแล้วค่อยออกมา แต่หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรือโนอาห์ก็จะเป็นของแต่งบ้านได้เก๋ไก๋
และสุดท้าย อยากจะเสนออีกโครงการหนึ่ง ที่ขอเรียกว่า โครงการปลอดภัยด้วยรัก 2012
คนคิดโครงการนี้คือ บริษัท ทเวลฟ์ โปรดักชั่นส์ เบลิซ (12 Productions Belize) ซึ่งประกาศเชิญชวนให้คู่รักไปสานรักกันก่อนสิ้นโลก ภายใต้บรรยากาศอารยธรรมมายันอันสุดขลัง
เบลิซเป็นประเทศเล็กๆ ในอเมริกากลาง อยู่ติดกับเม็กซิโกค่ะ เวลาคิดถึงอารยธรรมมายัน คนก็มักจะคิดถึงเม็กซิโก แต่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเบลิซก็บอกว่า ที่นี่ตะหาก ที่เป็นต้นกำเนินอารยธรรมมายันขนานแท้ และเป็นต้นกำเนิดเรื่องวันสิ้นโลกในปี 2012 ด้วย
ว่าแล้ว ทเวลฟ์ โปรดักชั่นส์ เบลิซ ก็ประกาศโครงการแต่งงานที่เบลิซในปี 2012 (2012 Wedding Belize) ขึ้น โดยนำเสนอแนวคิดน่าประทับใจว่า ในเดือน 12 ปี 12 ที่มีคำทำนายว่าจะสิ้นโลกนั้น อันที่จริงหมายถึงการเริ่มต้นใหม่ตะหาก และเลข 12 เป็นตัวเลขนำโชคของมายา เพราะฉะนั้น ก็จะจัดวิวาห์เหาะ...เอ๊ย...วิวาห์หมู่ขึ้นอย่างอลังการงานสร้าง ในวันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ.2012 หรือ 12/12/12 พร้อมประกาศว่าใครได้แต่งงานวันนี้ จะมีชีวิตคู่ที่ยืนยาว เพราะได้เริ่มต้นในวันที่ดี
แต่หากเกิดโชคร้าย โลกาวินาศมาเยือนในวันที่ 12 ธันวาคม 2012 เข้าจริงๆ ก็ไม่เป็นไร ถือว่าได้ใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันถึงกัลปาวสาน สถานที่ซึ่งถูกเตรียมไว้เพื่องานแต่งงานสุดคลาสสิกนี้ คือวัดมายาเก่าแก่ถึง 1,200 ปีก่อนคริสตกาล งานนี้ต้องรีบจองหน่อย เพราะรับจำนวนจำกัดแค่ 36 คู่ ด้วยสนนราคาเริ่มต้น 14,030-24,030 เหรียญสหรัฐฯ ตามแต่ละแพ็กเกจ
วันสิ้นโลกนั้นจะมีจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าสิ่งที่มีจริงแน่นอน และจะคงอยู่ไม่ว่าโลกนี้จะสมบูรณ์หรือผุพังขนาดไหน นั่นคือ “ความรัก”
ว่าแล้ว พอถึงเดือนธันวาคม 2012 ก็ไม่ต้องไขว่คว้าอะไรกันให้มากหรอกค่ะ แค่มีใครสักคนให้กอด แล้วจะรอดหรือตายก็ช่างมันเหอะน่า...
ทีมงานนิตยสารต่วย'ตูน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น