วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2554

'แผ่นดินไหว พายุใหญ่ เชื้ออี.โคไล ถึง ปฏิทินมายัน...' สัญญาณ 'วันสิ้นโลก'


June 6, 2011, 7:23pm

'แผ่นดินไหว พายุใหญ่ เชื้ออี.โคไล ถึง ปฏิทินมายัน...' สัญญาณ 'วันสิ้นโลก'

ยิ่งใกล้วันยิ่งโกลาหลกับปฏิทินวันสิ้นโลกของชนเผ่ามายา ที่ระบุชัดว่า วันที่ “21 ธันวาคม ค.ศ.2012” ที่ถือเป็น วันสุดท้ายตามปฏิทิน 5,125 ปี (Mesoamerican Long Count calendar) ของชนเผ่ามายา ผู้เลื่องชื่อด้านอารยธรรมแห่งอเมริกากลาง

นอกจากนี้ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ตามสองข้างทางถนนสายต่างๆ เขต อ.เมือง จ.กำแพงเพชร มีป้ายติดอยู่บนยอดไม้เนื้อความระบุว่า “21 พฤษภาคมนี้ แผ่นดินไหวทั่วโลก วันพระเจ้า พิพากษามนุษย์ทุกชาติ คัมภีร์ใบเบิลรับรองเกิดขึ้นแน่นอน

ล่าสุดเครือข่ายวิทยุคริสเตียนในสหรัฐฯ ป่าวประกาศตามคำทำนายของชายชาวอเมริกัน วันที่ 21 พ.ค. เป็นวันสิ้นโลก จนคนแห่บริจาคเงินที่เก็บมาจนสิ้นเนื้อประดาตัว

ตัวอย่างวันโลกแตกข้างต้น แม้จะไม่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นจริงๆ แต่ก็สร้างความตื่นหนกให้กับประชาชนอย่างมากมาย และยิ่งไปกว่านั้น ไม่กี่วันมานี่มีข่าวว่ามีโรคสายพันธ์ใหม่ ชื่ออี-โคไล ที่มาปนเปื้อนมาจากผักและผลไม้ ที่ยังถกเถียงกันอยู่ว่าประเทศไหนเป็นตัวแพร่เชื้อ ส่งผลให้คนตายไปอย่างมากมาย สภาวะดินฟ้าอากาศที่ไม่เคยเกิดก็เกิดถี่ขึ้น โรคที่แปลกๆ ก็เริ่มเผยโฉมหน้ามามากมาย

คำถามก็คือ โลกกำลังจะส่งสัญญาณอะไร หรือเรื่องที่หลายคนวิตกว่าโลกำลังจะแตกเป็นเรื่องจริง...?

แนวคิดเรื่องวันสิ้นโลก


เว็บไซต์เกี่ยวกับการทำนายวันสิ้นโลกชื่อดัง อย่าง www.endoftheworld2012.net , www.endworld2012.com และ www.december2012endofworld.com อธิบายว่าในความเป็นจริงแล้วความเชื่อเรื่องวันสิ้นโลกมีอยู่มากมายหลายร้อยหลายพันแนวคิดแตกต่างกันออกไปตามแต่ละเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ ศาสนาและวัฒนธรรม

ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า แนวคิดเรื่องวันสิ้นโลกที่ถูกกล่าวขวัญถึงกันมากที่สุดในช่วงหลายปีมานี้ คงหนีไม่พ้นความเชื่อที่ระบุว่า โลกและมวลมนุษยชาติจะต้องถึงกาลอวสานในวันที่ “21 ธันวาคม ค.ศ.2012” ที่ถือเป็น วันสุดท้ายตามปฏิทิน 5,125 ปี (Mesoamerican Long Count calendar) ของชนเผ่ามายาผู้เลื่องชื่อด้านอารยธรรมแห่งอเมริกากลาง

จนถึงขณะนี้จะยังไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ว่า เพราะเหตุใดชนเผ่ามายาจึงต้องกำหนดวันดังกล่าวให้เป็นวันสุดท้ายในปฏิทินของตน

แม้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ ทั่วทุกมุมโลกพยายามออกมายืนยันผลการศึกษามากมายว่า โลกที่เราอาศัยอยู่ใบนี้จะไม่มีทางดับสูญหรือต้องเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่ในปี 2012 อย่างแน่นอน

ขณะที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านอารยธรรมมายาต่างๆ ที่เขียนบทความในอินเตอร์เน็ต ออกมายืนยันว่าไม่เคยมีคำทำนายใดๆเกี่ยวกับวันสิ้นโลก ปรากฎอยู่ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่านี้แต่อย่างใดพร้อมย้ำว่า มีความพยายามนำเอาเรื่องจุดสิ้นสุดของปฏิทินมายาไปโยงกับเรื่องเหนือธรรมชาติต่างๆ อย่างไร้เหตุผล

เหตุของการสิ้นโลก

สาเหตุที่อาจนำไปสู่วันสิ้นโลกไม่ว่าปฏิทินของชนเผ่ามายาจะเกี่ยวข้องกับวันสิ้นโลกหรือไม่แต่ความเชื่อเรื่องวันแห่งหายนะนี้ก็ไม่เคยจางหายไป จนถึงขั้นที่มีผู้เชี่ยวชาญ

ตามเว็บไซต์ชื่อดัง (www.endoftheworld2012.net / www.endworld2012.com / และ www.december2012endofworld.com ) ออกมาแบ่งสาเหตุของการเกิดวันสิ้นโลกเอาไว้เป็น 2 ประเภท คือ การเกิดวันสิ้นโลกจากสาเหตุทางธรรมชาติและการเกิดวันสิ้นโลกเพราะน้ำมือของมนุษย์

เท่าที่เคยมีการรวบรวมข้อมูลกันมาหายนะครั้งใหญ่จากสาเหตุทางธรรมชาติที่อาจนำไปสู่วันสิ้นโลกได้นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น

· -การเปลี่ยนแปลงด้านฟิสิกส์อย่างรวดเร็วฉับพลันของจักรวาล

· -การเคลื่อนตัวของหลุมดำ (black hole ) เข้าใกล้ระบบสุริยจักรวาล

· -การระเบิดของรังสีแกมมาครั้งใหญ่นอกโลก

· -การลดลงหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของพลังงานในดวงอาทิตย์

· -การสลับขั้วอย่างฉับพลันของแกนโลกและขั้วแม่เหล็กโลกจากเหนือเป็นใต้-จากใต้เป็นเหนือ

· -การเคลื่อนที่ของระบบสุริยะผ่าน "ฝุ่นผงคอสมิก" ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างรุนแรงบนโลก

· -การที่โลกถูกพุ่งชนอย่างรุนแรงจากอุกกาบาตหรือวัตถุอื่นๆในอวกาศ

· -การเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ สึนามิครั้งใหญ่

ไม่เว้นแม้แต่ สาเหตุที่ดูไม่ค่อยน่าเชื่อมากนักอย่างการถูกจู่โจมโดย สิ่งมีชีวิตนอกโลกหรือ มนุษย์ต่างดาวนอกจากนี้ สาเหตุหลังของวันโลกแตกอาจจะมาจากน้ำมือของมนุษย์ที่อาจนำไปสู่วันสิ้นโลกได้นั้น มีข้อมูลระบุว่าอาจเป็นการเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่จากพฤติกรรมการกินอยู่หลับนอนแบบเกินพอดีของมนุษย์ การเกิดสงครามนิวเคลียร์ รวมถึง การที่มนุษย์สูญเสียศักยภาพในการควบคุมเครื่องจักรกลและคอมพิวเตอร์จนสิ่งเหล่านี้หันมาลงมือทำร้ายมนุษย์เสียเอง ฯลฯ

แพลเน็ต เอ็กซ์ หรือ นิบิรู

อีกแนวคิดหนึ่งที่พยายามอธิบายถึงวันสิ้นโลกในเดือนธันวาคมปี 2012 นั้น คือ แนวคิดเรื่องดาว "แพลเน็ต เอ็กซ์" หรือ "นิบิรู" พุ่งชนโลก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดหายนะ

ครั้งใหญ่จนมนุษย์ต้องประสบชะตากรรมเดียวกับที่ไดโนเสาร์ต้องสูญพันธุ์มาแล้ว เพราะการพุ่งชนโลกของอุกกาบาตครั้งใหญ่เมื่อยุคอดีต

หลังการค้นพบดาวพลูโต เมื่อปี ค.ศ 1930 หลายฝ่ายเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจมีดาวเคราะห์ดวงอื่นๆที่อยู่ถัดจากดาวพลูโตออกไป ดาวดวงดังกล่าวถูกขนานนามว่า "แพลเน็ต เอ็กซ์" ซึ่งมีผู้เชื่อว่าอาจโคจรเคลื่อนตัวผ่านโลกของเราในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งนับจากนี้จนถึงปี 2012 โดยการเคลื่อนตัวผ่านโลกของ "แพลเน็ต เอ็กซ์" นี้เองที่เชื่อกันว่าจะผลักดันให้เกิดหายนะครั้งใหญ่ขึ้นบนโลก ทั้งการหลอมละลายอย่างฉับพลันของธารน้ำแข็งต่างๆ ทั้งที่ขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้ อันจะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นจนท่วมผืนแผ่นดินของประเทศต่างๆ รวมไปถึงทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงของภูเขาไฟทุกแห่งตามแนววงแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire) โดยพร้อมเพรียงกัน แทนที่จะเป็นการระเบิดเป็นครั้งคราวตามปกติ

เรื่องข้างต้นก็ยังทิ้งเป็นปริศนาเพราะยังไม่มีใครให้คำตอบได้อย่างชัดเจน...?


สรุปการเคลื่อนตัวของดวงดาวในปี 2011

เมื่อย้อนข้อมูลย้อนไปแล้ว สิ่งที่น่าสนใจก็คือ การเคลื่อนตัวของดวงดาวในปี 2011ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจเพราะมันสอดคล้องกับเหตุการณ์ความวุ่นวาย

เช่น เมื่อเดือนม.ค. และ ก.พ. ดาวอังคารโคจรตกที่ราศีมังกร กุมภ์ และมีน (เช่นต้นปี 2009 และ ต้นปี 2007) โลกจะเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่เคยพานพบมาก่อน ทั้งความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ปัญหาความขัดแย้งบนคาบสมุทรเกาหลี กระทั่งวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลก และเกิดความมึนตึงระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ (อนึ่ง สงครามมีแนวโน้มเกิดขึ้นเมื่อดาวอังคารโคจรบรรจบกับราศีมังกร) เดือน.มี.ค.พลังงานเริ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยวันที่ 10 มี.ค.ดาวพุธ เคลื่อนที่ตรงกับดาวมฤตยู ในราศีเมษ และตรงข้ามกับดาวเสาร์ ในราศีตุลย์ ดวงอาทิตย์โคจรรอบเส้นศูนย์สูตร ทำให้เวลากลางคืนกับกลางวันยาวนานเท่ากัน

คาดเดาว่าอาจเกิดการแตกแยกของคน 2 กลุ่มใหญ่ และอาจทำให้อุตสาหกรรมการบินประสบปัญหา (ช่วงเวลาดังกล่าวเกิดพายุหิมะ และปลายเดือนเม.ย.ภูเขาไฟในประเทศไอซ์แลนด์ปะทุพ่นเถ้าถ่านจำนวนมหาศาล)

สำหรับเดือน เมษายนค่อนข้างคล้ายกันทั้งด้านอารมณ์เหตุการ์สำคัญและความรุนแรงคุณลักษณะข้างต้นดูเหมือนเป็นการก่อกำเนิดความขัดแย้งรุนแรงในคาบสมุทรเกาหลี หรืออิหร่าน รวมถึงความไม่สงบภายในกลุ่มชาติตะวันตก มากกว่าเดือนที่ผ่านๆ มา

ทั้งนี้ เดือน มีนาคมและเมษายนมีความแตกต่างกันตรงที่ ดาวพฤหัส ตรงข้ามกับ ดาวเสาร์ ช่วงกลางราศีเมษ ซึ่งอาจส่งผลรุนแรงกับชาติมหาอำนาจ อาทิ สหรัฐฯ เยอรมนี สหราชอาณาจักร จีน วิกิลีกส์แสดงความกังวลหนักต่อปัญหาเศรษฐกิจ ความวุ่นวายทางการทูต ส่วนวันที่ 2-4 เมษายน ดาวอังคาร รวมตัวกับดาวมฤตยู ในราศีเมษ และพระจันทร์เต็มดวง

ขณะที่วันที่ 18-22 เมษายน ดาวอังคารและดาวพุธ รวมตัวกับดาวพฤหัสและตรงข้ามกับดาวเสาร์ อาจบ่งชี้ได้ว่า สถานการณ์ความรุนแรงที่สุดในรอบปี 2011 อาจเกิดขึ้นระหว่างกลางเดือนมีนาคมและปลายเมษายน

เดือนพฤษภาคมดวงอาทิตย์และดาวอังคาร โคจรออกจากราศีเมษ และเข้าสู่ราศีพฤษก อาจหวังได้ว่าโลกเริ่มกลับคืนสู่เสถียรภาพมากขึ้น และมีแนวโน้มเกิดวิวัฒนาการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงการค้นพบใหม่ ๆ และอาจเกิดเรื่องใหญ่ ๆ ในช่วงฤดูร้อนนี้ เช่นเดียวกับปี 1968-1969 และ 1989-1990 คาดว่าอาจเป็นกรณีสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ความวุ่นวายทางสังคม การนัดหยุดงาน การประท้วง จลาจล ก่อการร้าย และความรุนแรงอื่น ๆ เป็นต้น และหลังจากดวงอาทิตย์โคจรห่างเส้นศูนย์สูตรมากที่สุด คือช่วงที่ดาวอังคาร เคลื่อนสู่ราศีเมถุน อาจเห็นการปฏวัติ หรือการก่อจลาจล คลื่นมวลชนรวมตัวกันประท้วง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณชี้ให้เห็นว่า จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรในช่วงปี 2020

เดือนกรกฎาคมช่วงเวลาแห่งการประท้วงจากการที่ดาวมฤตยูและดาวพระเกตุ ทำมุมฉากครั้งแรก อาจเกิดความสงบสุข แต่ทั้งนี้ ดาวมฤตยูในราศีเมษ อาจส่งผลให้ความตึงเครียดทั้งปวงปะทุขึ้น


วันสำคัญที่น่าจับตาคือวันที่ 17-21 มิถุนายนดวงอาทิตย์ห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากที่สุดดาวพุธทำฉากกับดาวมฤตยู และดาวอังคาร เคลื่อนสู่ราศีเมถุน วันที่ 3-11 สิงหาคม ดาวอังคารเข้าสู่ราศีกรกฎ และเยื้องกับฉากของดาวมฤตยู และดาวกระเกตุวันที่ 25 ส.ค.ดาวอังคารทำมุมฉากกับดาวเสาร์ ดวงอาทิตย์ตรงข้ามกับดาวพระเกตุ ซึ่งอาจเป็นจุดไคลแมกซ์สำคัญครั้งที่ 2 ของปี หรือเกิดเหตุปลายกรกฎาคม หรือต้นสิงหาคม สำหรับเหตุการณ์ที่คาดว่าอาจเป็นไปได้นั้น อาทิ ฤดูร้อนอากาศร้อนจัด เผชิญายุเฮอร์ริเคน เป็นต้น

ส่วนระหว่างวันที่ 24-26 กันยายน ตรงกับศารทวิษุวัต หรือช่วงเปลี่ยนฤดู ดาวพุธตรงข้ามกับดาวมฤตยู และ 24 ธันวาคม พระจัทร์เต็มดวง ตรงข้ามกับดาวพระเกตุ และทำมุมฉากกับดาวมฤตยู

และนี่คือปริศนาของวันโลกแตกที่ไม่เพียงรอวันให้มันเกิดขึ้น เพราะมนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ ยังต้องหาคำตอบและแก้ไข...?

twitter : raydo_thairath

ไทยรัฐออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น