วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2553

รวม หายนะภัย ปี 2010 จาก เวบผู้จัดการ

ปี 2010 นี้นับว่าเป็นปีแห่งหายนะ ภัยพิบัติ และโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของโลกทีเดียว ไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากธรรมชาติ หรือน้ำมือมนุษย์ แต่ต่างก็ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินอย่างร้ายแรงมากเป็นประวัติการณ์อีกปีหนึ่ง ลองมาทบทวนกันว่าเหตุการณ์เหล่านั้นมีอะไรบ้าง

1.แผ่นดินไหวเฮติ

เริ่มกันตั้งแต่ต้นปี ในวันที่ 12 มกราคม (ตามเวลาท้องถิ่น) เกิดแผ่นดินไหววัดความรุนแรงถึงระดับ 7.0 ถล่มกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 250,000 ราย ขณะที่อีกกว่า 1.2 ล้านชีวิต ต้องไร้ที่อยู่อาศัย และยังต้องประสบกับวิกฤตด้านสาธารณสุขซ้ำเติม เมื่อโรคอหิวาต์ระบาดหนัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกกว่า 1,100 คน โดยยังมีจำนวนผู้ติดเชื้ออีกนับหมื่นคน

ยิ่งไปกว่านั้น ทางธนาคารโลก และสหประชาชาติ ได้ประเมินการฟื้นฟูบูรณะพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติไว้ว่า จำเป็นต้องใช้เงิน 11,500 ล้านดอลลาร์ และกินเวลาถึง 3 ปี แต่ก็เป็นเรื่องดีที่ผู้คนทั่วโลกต่างร่วมใจกันส่งความช่วยเหลือไปให้ผู้ประสบภัย โดยเฉพาะเหล่าคนดังที่ตบเท้าลงพื้นที่ และบริจาคเงินเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น แองเจลินา โจลี จอห์น ทราโวตา และฌอน เพนน์ เป็นต้น

2.แผ่นดินไหวชิลี

ผ่านไปเพียงเดือนเดียว ก็เกิดแผ่นดินไหวซ้ำในภูมิภาคละตินอเมริกา โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองกอนเซปซิยงของชิลี ระดับความรุนแรงถึง 8.8 ในเช้าตรู่ของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ แรงสั่นสะเทือนสร้างความเสียหายในกรุงซันติอาโก เมืองหลวงซึ่งอยู่ห่างออกไป 317 กิโลเมตร ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 711 ราย

นอกจากนี้ ยังมีการประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิที่เกิดจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่ชิลี ในทุกประเทศทั่วมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ก็ได้ยกเลิกในเวลาต่อมาเมื่อพบข้อมูลว่าคลื่นยักษ์นั้นไม่ได้มีความรุนแรงถึงขั้นเป็นอันตรายร้ายแรง

3.ภูเขาไฟไอซ์แลนด์ปะทุ

ภูเขาไฟใต้เขตธารน้ำแข็งอียาฟยาโยคูล ทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์เกิดการปะทุในช่วงเช้าของวันที่ 21 มีนาคม และพ่นเถ้าถ่านออกมาหลายระลอกจนกระทั่งถึงเดือนพฤษภาคม โดยควันพิษจากภูเขาไฟนั้นแผ่ลามไปทั่วน่านฟ้าหลายประเทศในยุโรป ส่งผลกระทบต่อการเดินทางทางอากาศ หลายประเทศต้องสั่งปิดน่านฟ้า และเที่ยวบินกว่า 63,000 เที่ยวถูกยกเลิก

4.แผ่นดินไหวจีน

เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 6.9 ถล่มเมืองอวี้ซู่ เขตปกครองตนเองของชาวทิเบตในมณฑลชิงไห่ ในเช้าวันที่ 14 เมษายน มียอดผู้เสียชีวิตกว่า 2,700 ราย บาดเจ็บกว่า 12,000 คน และสูญหายอีก 195 คน โดยรัฐบาลจีนต้องวางแผนจัดสรรงบประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการพื้นฟูพื้นที่ประสบภัย ซึ่งมีบ้านเรือนเสียหายนับพันหลัง

5.น้ำมันรั่วครั้งใหญ่ในอ่าวเม็กซิโก

แท่นขุดเจาะน้ำมันดีปวอเทอร์ ฮอไรซอน ของบริษัททรานส์โอเชียน ซึ่งขุดเจาะบ่อน้ำมันให้แก่บริษัทบีพี เกิดระเบิด และไฟไหม้ในวันที่ 20 เมษายน และจมลงสู่อ่าวเม็กซิโก 2 วันหลังจากนั้น ทำให้เกิดการรั่วไหลของน้ำมันครั้งใหญ่ ที่ถือว่าร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ แผ่ลามไปไกลตลอดแนวชายฝั่งมลรัฐมิสซิสซิปปี ลุยเซียนา แอละแบมา ฟลอริดา และเทกซัส และกลายเป็นวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของสหรัฐฯ ด้วย

6.น้ำท่วมปากีสถาน

ในเดือนสิงหาคม เกิดน้ำท่วมฉับพลันทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน และกินพื้นที่ราว 1 ใน 5 ของประเทศ ซึ่งทางสหประชาชาติ ระบุว่า เป็นอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 80 ปี โดยยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเกิน 1,760 ราย ขณะที่มีการแพร่ระบาดของเชื้ออหิวาต์ในบางพื้นที่ สร้างความทุกข์ร้อนให้กับประชาชนถึง 21 ล้านคน เนื่องจากเรือกสวนไร่นา และระบบสาธารณูปโภคได้รับความเสียหายอย่างมาก

7.วิกฤตตัวประกันฟิลิปปินส์

โรลันโด เมนโดซา มือปืน ซึ่งเป็นอดีตตำรวจสืบสวนสอบสวนของฟิลิปปินส์ ก่อเหตุบุกยึดรถบัส และจับนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงไว้เป็นตัวประกันในกรุงมะนิลา เป็นเวลาร่วม 12 ชั่วโมง สุดท้ายหน่วยสวาทก็ใช้กำลังบุกชาร์จวิสามัญคนร้าย แต่พลาดทำให้มีตัวประกันเสียชีวิต 7 ราย

โศกนาฏกรรมนี้ส่งผลให้ทางการฮ่องกง ตลอดจนผู้คนทั่วโลก พากันโกรธเคืองประสิทธิภาพการดำเนินงานช่วยเหลือตัวประกัน ที่ตำรวจและรัฐบาลฟิลิปปินส์แสดงให้โลกได้ประจักษ์ โดยเฉพาะในประเด็นว่า ฟิลิปปินส์ทำอย่างนี้กับคนฮ่องกงลงคอได้อย่างไร

8.ฮีโร่คนงานเหมืองชิลี

วิกฤตช่วยเหลือคนงานเหมืองในชิลีครั้งนี้เกือบต้องกลายเป็นโศกนาฏกรรม เมื่อปล่องขึ้นลงของเหมืองซานโฮเซ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงซันติอาโก ไปทางเหนือราว 800 กิโลเมตร เกิดพังทลายลงมา และต้องปล่อยให้คนงาน 33 ชีวิตติดอยู่ใต้ดินยาวนานถึง 69 วัน ตั้งแต่ 5 สิงหาคม จนกระทั่ง 13 ตุลาคม ปฏิบัติการกู้ภัยเพื่อนำพวกเขาขึ้นมาก็ประสบความสำเร็จเร็วกว่าที่คาดคิด และเป็นที่น่าภาคภูมิใจว่า ในทีมเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนั้น มี 2 วิศวกรชาวไทยร่วมอยู่ด้วย

9.ภูเขาไฟ-สึนามิถล่มอินโดนีเซีย

ภูเขาไฟเมราปีในเกาะชวาของอินโดนีเซียเริ่มพ่นลาวา และส่งสัญญาณการปะทุครั้งใหญ่ ในวันที่ 23 ตุลาคม จนทางการต้องประกาศเตือนภัยขั้นสูงสุด โดยการระเบิดเป็นระลอกๆ นานเกือบ 2 เดือน ทำให้มีชาวบ้านเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 324 ราย และมีการอพยพประชาชนกว่า 200,000 คน

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเกิดแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 7.7 ขึ้นในหมู่เกาะเมนตาวาอิ ทางตะวันตกของหมู่เกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย ในวันที่ 25 ตุลาคม ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิสูงถึง 3 เมตร ถล่มเข้าใส่หมู่บ้าน 10 แห่ง วิบัติภัยครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 282 ราย และสูญหายกว่า 400 คน

10.เหยียบกันตายเทศกาลน้ำในกัมพูชา

เทศกาลน้ำ ประเพณีที่ชาวกัมพูชายึดถือเอาคืนวันเพ็ญร่วมกันลอยทุ่นที่ประดับด้วยดวงไฟไปตามแม่น้ำ เพื่อเป็นการระลึกถึงบุญคุณ และแสดงความขอบคุณต่อแม่น้ำโขง กลับเกิดโศกนาฏกรรมเหยียบกันตายระหว่างการเฉลิมฉลองบนสะพานแห่งหนึ่งในกัมพูชา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 351 ราย

วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ท่อน้ำมันระเบิดตอนกลางเม็กซิโกไฟลุกท่วมเมืองดับ 28 เจ็บกว่า 50

สภาพท้องถนนที่ถูกเพลิงไหม้จากการระเบิดของท่อส่งน้ำมันในเมืองเท็กเมลูกัน ตอนกลางของเม็กซิโก
เอเอฟพี - เกิดเหตุท่อส่งน้ำมันระเบิดรุนแรงทางตอนกลางของเม็กซิโก คร่าชีวิตชาวบ้าน 28 ราย และยังทำให้บ้านเรือนหลายสิบหลังไฟลุกท่วม ซึ่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่าท้องถนนในบริเวณดังกล่าวมีสภาพเป็นทะเลเพลิงทีเดียว



อุบัติเหตุครั้งนี้น่าจะมีสาเหตุมาจากหัวขโมยพยายามลักลอบดูดเชื้อเพลิงของบริษัทน้ำมันแห่งชาติปิโตรลิออส เม็กซิกานอส หรือพีเม็กซ์ ในเมืองเท็กเมลูกัน ก่อนเวลารุ่งสาง ทำให้เกิดระเบิดอย่างรุนแรงไปทั่วทั้งเมือง

ความร้อนจัดจากเปลวเพลิงนั้นถึงขนาดทำให้ลูกกรงเหล็กหลอมจนบิดเบี้ยว กระจกหน้าต่างและประตูแตกกระจาย รวมถึงทำให้รถหลายคันไหม้จนเหลือแต่โครงเหล็ก ต้นไม้จำนวนมากไหม้เกรียม ควันโขมงไปทั่ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องขุดเถ้าถ่านหนาบนถนนหนทางเพื่อเคลียร์พื้นที่

บ้านเรือน และรถยนต์แต่ถูกไฟเผาจนเหลือแต่โครง
บาเลนติน เมเนเซส เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐปวยบลากล่าวว่า แก๊งอาชญากรเจาะท่อส่งน้ำมันของบริษัทพีเม็กซ์ ซึ่งทำให้เชื้อเพลิงไหลออกมาโดยควบคุมไม่ได้เนื่องจากแรงดันสูง ท้องถนนเริ่มเจิ่งนองไปด้วยน้ำมัน จากนั้นจึงเกิดประกายไฟ และไฟลุกท่วมเป็นทะเลเพลิงในพริบตา

ด้านลอรา กูร์ซา เจ้าหน้าที่คุ้มครองพลเรือนระดับสูงเสริมว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 52 ราย และบ้านเรือน 32 หลังที่ถูกไฟเผาไหม้โดยสิ้นเชิง แม้จะเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินจะสามารถดับไฟได้หมดแล้วในที่สุดก็ตาม ขณะที่อีก 83 หลังได้รับความเสียหาย

ส่วนฟรังซิสโก เบลก รัฐมนตรีมหดาไทยของเม็กซิโกเตือนว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่เขาเดินสำรวจสถานที่เกิดเหตุอย่างระมัดระวังผ่านซากเพลิงไหม้ไปพร้อมกับหน่วยกู้ภัย

ในจำนวนเหยื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมด 27 ราย มีเด็กๆ 5 คน และทั้งครอบครัวของพวกเขาได้รับแรงระเบิดขณะนอนหลับภายในบ้าน ศพของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยเถ้าถ่าน ภายในบ้านซึ่งไหม้เป็นจุล

ประชาชนหลายร้อยคนถูกอพยพยไปยังสถานที่พักชั่วคราว ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินผจญเพลิงไหม้ต่อไป ด้วยความกังวลว่าอาจมีเชื้อเพลิงรั่วไหลลงสู่แม่น้ำอาโตยัก ซึ่งอยู่ใกล้เคียงด้วย

เหยื่อผู้เสียชีวิตจากเพลิงไหม้


Authorities estimate that explosion and resulting spill in central Mexico affected three-mile radius

A pipeline exploded in central Mexico early yesterday as thieves were trying to steal oil, killing at least 27 people and sending rivers of flaming crude through city streets.

Authorities estimated that the explosion and resulting spill affected a three-mile radius, injuring at least 52 people and scorching more than 115 homes.

The first explosion, which was followed by four additional minor blasts, forced hundreds to flee the city of San Martin Texmelucan, 55 miles east of Mexico City.

Television images showed scorched houses, businesses and trees blackened by the huge explosion, and a black crude-like substance covering the streets.

The explosion, which happened before dawn on Sunday, was apparently provoked by thieves trying to steal crude oil, according to Valentin Meneses, interior secretary for the state of Puebla.

The state-owned oil company, Petroleos Mexicanos, or Pemex, said it had shut down the pipeline. Government authorities said the fire was under control by midday, and fires are burning the remaining crude.

Civil protection authorities, firefighters and military officers are investigating and trying to ensure there are no more explosions. No one has been detained.

Pemex has struggled with chronic theft, losing as much as 10% of its product.

Criminals tap remote pipelines, sometimes building pipelines of their own, to siphon off hundreds of millions of dollars worth of oil each year, Pemex has said.

In 2009, the US justice department said US refineries bought millions of dollars worth of oil stolen from Mexican government pipelines and smuggled it across the border in illegal operations led by Mexican drug cartels expanding their reach.

Two Texas oil company officials were sentenced to probation in September for their roles in the sale of petroleum products stolen from Mexico.

Pemex sued five companies in the US in June for allegedly buying stolen Mexican petroleum products.

Also in June, police arrested 13 people who had excavated a 500ft tunnel under Mexico City to steal fuel from oil company pipelines.

วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

โรงงานมากมายเสี่ยงก่อหายนะภัย ... ในมาบตาพุด ก่อสร้างไม่แข็งแรง โดย ปตท.

ผู้คนคง ไม่คิดว่า บริษัทกึ่งรัฐวิสาหกิจขนาดยักษ์ใหญ่ มีกำไรมหาศาลในแต่ละปี มีโครงการเอื้อสถาบัน สมาคม เครือข่ายสิ่งแวดล้อมต่างๆ จะกล้าดำเนินการอย่างมักง่าย ถมดินเสร็จวางฐานปูนรองรับเครื่องจักรหนัก หอ กลั่น หอ ความดันสูงต่างๆ ที่ ใหญ่ขนาดเทาน์เฮ้าส์ 2 ห้อง สูงขึ้นไปถึง 40 เมตร หรือสูงกว่าตึก 10 ชั้น โดยที่ไม่ตอกเสาเข็ม ศาลปกครองระยอง อ้างว่า - การอนุมัติแบบก่อสร้างและโครงการก่อสร้างทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และการคาดการณ์ของผู้ร้องเรียนซึ่งเป็นวิศวกรโยธา อายุงาน 20 ปีนั้นเลื่อนลอย เพราะไม่ใช่เป็นผู้ออกแบบ จึงไม่น่าจะเป็นการคาดการณ์ที่ถูกต้อง

ตามไปดู ในรูป ด้านล่าง ว่าทำไม และอะไรคือเหตุผลในการร้องเรียนดังกล่าว หรืออาจจะไปดูภาพขนาดใหญ่ใน FLIPBOOK - http://www.boonchoo.org/MTP666/MTP666.html





วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เกิดเหตุไฟไหม้เรือนจำแห่งหนึ่งในกรุงซันติอาโก - เกิดเหตุหายนะแล้ว จึงจะเริ่มตระหนัก ถึงความประมาท

เกิดเหตุไฟไหม้เรือนจำแห่งหนึ่งในกรุงซันติอาโก เมื่อช่วงเช้าวันพุธ(8) ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีนักโทษตายอย่างน้อย 83 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่ยอมรับว่าเหตุอัคคีเพลิงครั้งนี้นับเป็นหายนะที่เกิดขึ้นกับสถานราชทัณฑ์ ครั้งเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาของประเทศชิลีเลยทีเดียว

"มันคือโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ บางทีมันอาจเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของระบบเรือนจำของเรา" ไจเม มานาลิช รัฐมนตรีสาธารณสุขบอก หลังจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถดับเปลวไฟที่โหมกระหน่ำทั่วทั้งคุกซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหลวงของประเทศได้สำเร็จ

ANTIAGO, Chile—A blaze at a prison in the San Miguel area of Chile's capital killed 83 inmates and left 21 inmates or guards hospitalized, President Sebastian Pinera said.

Deadly Fire in Chilean Prison

Claudio Santana/AFP/Getty Images

Relatives of inmates called their names outside the San Miguel prison.

The fire broke out around 4 a.m. local time Wednesday after a fight among inmates. Prison crowding contributed to the high death toll, Mr. Pinera said. The prison was built to house about 1,000 inmates, but nearly 2,000 inmates are being held there.

A huge blaze breaks out at a prison in Chile's capital Santiago, at least 80 inmates were killed and 20 injured. Video courtesy of Reuters.

The fire, which was confined to the fourth floor at the No. 5 tower of the San Miguel prison, was put out Wednesday morning after firefighters rushed to the prison, said Fernando Echeverria, the regional governor for Metropolitan Santiago.

Overcrowding is common in Chilean prisons, and the government for years has been building new prisons to address the problem. Chilean prisons currently have the capacity to hold about 30,000 inmates, but actually house roughly 53,000 inmates.

"This is a problem that has been around for a very long time. We have a penitentiary system that isn't worthy of our country," Mr. Pinera told reporters outside one of the state hospitals where the injured had been rushed. Officials said the death toll could increase since 14 of the injured suffered severe trauma.

European Pressphoto Agency

Relatives of inmates demand information outside San Miguel prison in Santiago.

The accident comes in the aftermath of the 8.8-magnitude earthquake that hit the nation in February and the August cave-in that left 33 miners trapped for 70 days under the Atacama desert. This latest tragedy is expected to fuel changes to the prison system.

"The conditions of the prison system are extremely inhuman and we're going to give prison reform a bigger push," Mr. Pinera said in a televised news conference, flanked by Justice Minister Felipe Bulnes and Health Minister Jaime Manalich.

Since the Pinera administration took office in March, Mr. Bulnes has repeatedly said his ministry would seek to overhaul the current prison system.

Coincidentally, the San Miguel fire occurred on the anniversary of the worst fire in Chilean history, which occurred in 1863 and killed more than 2,000 people. It led to the creation of the National Firefighters Corp., Mr. Pinera said. In Chile, firefighters are all volunteers.

Hundreds of family members of the San Miguel inmates rushed to the prison early Wednesday and then to several state hospitals in the hopes of obtaining news about their loved ones, state television TVN reported.


วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เหตุดินถล่มในเขต ลา กาบริเอลา เมืองเบลโล ของโคลอมเบีย เจ้าหน้าที่กาชาดประเมินว่าอาจมีผู้ถูกฝังทั้งเป็นถึง 200 คน



เกิดเหตุดินถล่มในเขต ลา กาบริเอลา เมืองเบลโล ของโคลอมเบีย เจ้าหน้าที่กาชาดประเมินว่าอาจมีผู้ถูกฝังทั้งเป็นถึง 200 คน

เอเอฟพี - เกิดเหตุดินถล่มทับบ้านเรือน 10 หลังใกล้เมืองใหญ่อันดับ 2 ของโคลอมเบีย และอาจมีชาวบ้านถึง 200 คนถูกฝังทั้งเป็น เจ้าหน้าที่กาชาดโคลอมเบียเผย

“ยอดผู้สูญหายที่เราประมาณไว้เบื้องต้นคือ 150-200 คน ซึ่งขณะนี้พบผู้รอดชีวิตแล้ว 3 คน” ซีซาร์ อูรูเอนา รองผู้อำนวยการฝ่ายดำเนินงานของสภากาชาดระบุ

“เรากำลังเคลื่อนย้ายซากปรักหักพังออก เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต”

เวลาประมาณ 19.00 น.(GMT) เกิดดินถล่มทับบ้านเรือนในเขต ลา กาบริเอลา ในเมืองเบลโล ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเมเดลลิน เมืองใหญ่อันดับ 2 ของโคลอมเบีย

“ดินถล่มทับบ้านเรือน 10 หลัง ซึ่งล้วนแต่เป็นอาคาร 3 ชั้น ในวันอาทิตย์คนในครอบครัวมักจะทานอาหารกลางวันร่วมกัน เราจึงประเมินว่าแต่ละบ้านน่าจะมีคนประมาณ 15-20 คน” อูรูเอนา อธิบาย

เมเดลลิน ตั้งอยู่ในหุบเขา และมีชาวบ้านที่ยากจนจำนวนมากปลูกสร้างบ้านเรือนอย่างง่ายๆอยู่ตามเชิงเขา ซึ่งไม่สามารถต้านทานสภาวะอากาศที่รุนแรงได้

โคลอมเบียประสบกับพายุฝนตกหนักมานานหลายสัปดาห์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 176 ราย และบาดเจ็บอีก 225 คน นอกจากนี้ยังมีประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยอีกกว่า 1.5 ล้านคนทั่วประเทศ

หลายฝ่ายระบุว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องเป็นอิทธิพลจากปรากฎการณ์ลานีญา ซึ่งเป็นสภาวะที่น้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้เส้นศูนย์สูตรเย็นลงผิดปกติ

รัฐบาลโคลอมเบียประเมินความเสียหายจากพายุฝนไว้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ