วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2554

เมืองบราซิลร้าง หลังผู้คนอพยพหนีหายนะน้ำท่าม-โคลนถล่ม

เอเอฟพี - ยานพาหนะแถวยาวเหยียดพยายามหลบหนีออกจากเมืองโนวา ฟริเบอร์โก หนึ่งในเทศบาลที่ได้รับความเสียหายร้ายแรงจากอุทกภัยหายนะทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิล ที่คร่าชีวิตผู้คนไปร่วมๆ 500 ราย

รถยนต์นับร้อยคันต้องหยุดรอต่อคิวและค่อยๆคลานขึ้นถนนสายหลักที่ถูกดินถล่มซัดเสียไปครึ่งหนึ่งและใช้งานได้เพียงเลนเดียว ในความพยายามออกนอกเมือง แถมขณะเดียวกันพวกเขาก็ต้องคอยเปิดทางให้กับรถฉุกเฉิน ตำรวจและบรรทุกของทหารที่มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองด้วย

เมืองแห่งนี้คือศูนย์กลางของหายนะที่บังเกิดกับบราซิลในสัปดาห์นี้ ขณะที่หน่วยกู้ภัยยังไม่ลดละความพยายามในการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุน้ำไหลบ่าและโคลนถล่มที่คร่าชีวิตผู้คนในหลายพื้นที่ทางเขตหุบเขาใกล้กับนครริโอเดจาเนโร ไปแล้วกว่า 500 ศพ

ในโนวา ฟริเบอร์โก ถนนสายต่างๆแออัดไปด้วยยานพาหนะที่ขนผู้คนอพยพออกจากเมือง ส่วนบางคันก็ขับวนไปรอบๆในความพยายามค้นหาญาติมิตรที่สูญหาย จนทำให้ทีมช่วยเฉินต้องเปิดไซเรนขอทางอยู่ตลอด ขณะที่ตำรวจจราจรในชุดกันฝนต้องคอยทำหน้าที่เปิดทางให้รถตักดินผ่านไปก่อน

กระนั้นบรรยากาศในเมืองสัมผัสได้ถึงความอ้างว้างด้วยร้านค้าต่างๆปิดบริการทั้งหมด โดยเจ้าของร้านบางคนมีสีหน้าโศกเศร้า ท้อแท้ หมดหวังระหว่างยกหีบห่อสินค้าขึ้นรถบรรทุกเพื่ออพยพ ส่วนคนยากจนต้องไปคุ้ยแคะซากหักพังตามภูเขาต่างๆสำหรับอะไรก็ตามที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้

ทว่าในความพยายามออกนอกเมืองของประชาชนโนวา ฟริเบอร์โก ต้องเจออุปสรรคสำคัญอีกอย่าง เมื่อหลายคนที่สามารถเดินทางได้เนื่องจากขาดแคลนน้ำมัน โดยมีรายงานว่า ณ สถานีบริการแห่งหนึ่งมีรถยนต์ต่อแถวรอเติมน้ำมันมากกว่า 60 คันเลยทีเดียว

ย่ายใจกลางของเมือง จตุรัสแห่งหนึ่งซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าโบสถ์สีขาวเต็มถูกแทนที่ไปด้วยโคลน ขณะที่ตู้โทรศัทพ์สาธารณะของเมืองจำนวนมากต้องจมอยู่ใต้โคลนที่สูงในระดับเอว ทั้งนี้แม้รถแทรกเตอร์พยายามอย่างหนักในการเข้าเคลียร์พื้นที่ แต่ดูเหมือนมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อย

"มันคือหายนะครั้งใหญ่หลวง เมืองแห่งนี้ถึงจุดจบแล้ว เมืองที่เคยเป็นแหล่งท่องเที่ยว ตอนนี้มันถึงจุดจบแล้ว" ชาวบ้านรายหนึ่งบอก ขณะที่โรงแรมต่างๆบอกว่าพวกเขาต้องสูญเสียรายได้มหาศาลหลายล้านดอลลาร์จากวิกฤตโคลนถล่มครั้งนี้ซึ่งเกิดขึ้น ณ เวลาที่ตามปกติแล้วจะเป็นช่วงต้นฤดูกาลพักผ่อนช่วงฤดูร้อนของพื้นที่แถบนี้

ทั้งนี้แม้รัฐบาลกลางและรัฐบาลแห่งรัฐ จะให้คำมั่นต่อการฟื้นฟูพื้นที่ แต่ด้วยขอบเขตความเสียหายที่กว้างขวาง จึงคาดหมายว่าคงต้องใช้เวลาอีกนานหลายปี


เมฆฝนสีดำทะมึนเมื่อมองจากตัวเมือง โนวา ฟริเบอร์โก
เมฆฝนสีดำทะมึนเมื่อมองจากตัวเมือง โนวา ฟริเบอร์โก
สภาพบ้านเรือนซึ่งประสบภัยน้ำท่วมและโคลนถล่มในเมืองคาเลอเม ทางตอนเหนือของรีโอเดจาเดโร วานนี้(15)
b>เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยและโคลนถล่มในเขตภูเขาใกล้เมืองรีโอเดจาเนโรของบราซิลพุ่งเกิน 610 ศพแล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันพลเรือนเผยวันนี้(16)

หน่วยกู้ภัยเข้าช่วยเหลือประชาชนราว 14,000 คนซึ่งไร้ที่อยู่อาศัยในเขตเซอร์รานา ห่างจากเมืองรีโอประมาณ 100 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่ประสบอุทกภัยรุนแรงมากที่สุด หน่วยป้องกันพลเรือนระบุ

โนวา ฟริเบอร์โก เป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด โดยพบผู้เสียชีวิตแล้ว 274 ราย ส่วนที่เทเรโซโปลิสมีผู้เสียชีวิต 263 ราย, เปโตรโปลิส 55 ราย และซูมิโดอูโรอีก 18 ราย

คนงานขนย้ายร่างผู้เสียชีวิตคาดว่า ยอดตายอาจเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าถึงหมู่บ้านเล็กๆอีกหลายแห่ง ซึ่งต้องเผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบราซิล

ชาวบ้านเข้าไปช่วยค้นหาศพของเด็กหญิง ซึ่งยังถูกฝังอยู่ใต้ซากบ้านในเมือง มอร์โร โด เดเด ทางตอนเหนือของรีโอเดจาเนโร วานนี้(15)


ชาวเมืองคาเลอเมเดินลุยน้ำเข้าไปสำรวจความเสียหายของบ้านเรือน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น